PodCast
สวัสดีครับ พบกับรายการ Board Game World กันอีกครั้งนะครับ โดยรายการนี้เราจะหยิบเรื่องราวน่าสนใจต่างๆ เกี่ยวกับโลกบอร์ดเกม มานำเสนอในรูปแบบ PodCast ให้ทุกคนได้ฟังกันครับ
สำหรับวันนี้ครับรายการ Board Game World อยู่กับเกม Salem 1692 ซึ่งเป็นเกมที่มีประวัติ และเรื่องราวมาจากเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจริงในเมือง Salem ปี 1692 โดยในเกมนี้ เราจะได้รับบทเป็นชาวเมือง Salem และชาวเมืองทุกคนจะต้องช่วยกัน เปิดเผยการ์ดไต่สวนที่เป็นแม่มดทั้งหมดในเกม ก่อนที่ผู้คนในเมืองแห่งนี้จะถูก จับแขวนคอจากการที่ไม่ไว้ใจกันเอง หรือไม่คุณก็อาจจะกลายเป็นคน คนเดียวที่ตกอยู่ท่ามกลางฝูงแม่มดก็เป็นได้
โดยตามประวัติ เหตุการณ์การล่าแม่มดเริ่มต้นขึ้น ณ เมืองซาเลม รัฐมาซาชูเสท (Massachusett) ประเทศ สหรัฐอเมริกา
ซามูเอล ปาร์ริส (Samuel Parris) ซึ่งเป็นบาทหลวงหลักประจำเมือง Salem ได้มีการเทศนาที่มีใจความว่า “โบสถ์แห่งนี้อาจตกอยู่ภายใต้เงื้อมมือของ ปีศาจ” จากการที่เขาเทศนาส่งผลให้ชาวบ้านเริ่มมีความเชื่อกันว่า ในหมู่บ้านแห่งนี้อาจจะมีการเกี่ยวข้องกับปีศาจจริงๆ และทำให้การ์ดของเขามีความสามารถในการเลือกหยิบการ์ดจากกองทิ้งแทนกองจั่ว เหมือนกับการใช้ประโยชน์จากผู้อื่น
ในช่วงเดือน มกราคม ปี ค.ศ.1692 เด็กสาว 2 คนนามว่า
(อบิเกล วิลเลียมส์) Abigail William
และ (อลิซาเบธ ปารีส) Elizabeth Parris
ซึ่งเป็นลูกสาวและหลานสาวของ Samuel Parris เริ่มมีอาการแปลกๆเกิดขึ้น ได้แก่ มีอารมณ์ฉุนเฉียว ขว้างปาสิ่งของต่างๆ พูดถ้อยคำแปลกประหลาดที่ฟังไม่รู้เรืองและเริ่มบิดท่าทางของตัวเองไปในท่าทีที่แปลกประหลาดโดยไม่ทราบสาเหตุ นอกจากนี้ยังมีเด็กสาวอีกคนหนึ่งก็มีอาการเกิดขึ้นคล้ายๆ กัน คือ
(แอน พุตนาม) Ann Putnum
เมื่อนายแพทย์ Will Griggs ได้เข้ามาทำการวินิจฉัยเด็กสาวเหล่านั้น ก็ไม่พบสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ จึงสรุปว่าอาการของเด็กสาวเหล่านี้ต้องเกิดขึ้นมาจากคำสาปของแม่มดเป็นแน่ หลังจากนั้นเขาก็ได้รับตำแหน่งให้ตรวจสอบคนอื่นๆ ว่า คาถาจากแม่มดในร่างกายของแต่ละคนนั้น มีความ “ใหญ่” มากแค่ไหน ส่งผลให้ในเกมวิลล์ กริกก์ (Will Griggs ) มีความสามารถในการเปลี่ยนการ์ดข้อแก้ตัว ( Alibi ) เป็นการ์ด พยาน ( Witness ) ซึ่งทำให้ผู้ที่โดนการ์ดใบนี้แทบจะต้องเปิดเผยการ์ดไต่สวนของตนเองทันที
ต่อมาศาลก็กดดันให้เด็กสาวเหล่านั้นบอกว่าใครกันที่เป็นคนสอนหรือร่ายคาถาแม่มดแก่พวกนาง เมื่อโดนถามเด็กสาวเหล่านั้นก็เริ่มวิตกกังวล จึงเริ่มกล่าวโทษผู้หญิง 3 ว่าทำให้ตนเองมีอาการอย่างนี้และศาลก็รับฟังคำกล่าวโทษของเด็ก โดยไม่มีหลักฐานอื่นๆ ประกอบส่งผลให้ทั้ง
Ann และ Abigail
มีความสามารถที่มากขึ้นเมื่อเป็นคนเล่นการ์ดข้อกล่าวหา (Accusation) ใส่คนอื่น
โดยผู้หญิง 3 คนที่เธอกล่าวหาประกอบไปด้วย
ซาร่าห์ กู้ด (Sarrah Good)
ขอทานไร้บ้าน และด้วยความที่เธอไม่มีบ้านและทรัพย์สิน จึงไม่มีใครสามารถเล่นการ์ดลอบวางเพลิง (Arson) และ ขโมย (Robbery) ใส่เธอได้ 
ทิทูบา (Tituba) ทาสรับใช้ผิวสี ของบ้าน Parris
และหญิงวัยกลางคนอีกคนหนึ่ง ทั้ง Sarah Good และหญิงวัยกลางคนปฏิเสธว่าตนเองเกี่ยวข้องกับแม่มดและยืนยันว่าตนเองบริสุทธิ์ จึงทำให้พวกเธอทั้ง 2 คน ถูกจับแขวนคอในภายหลัง มีเพียงแค่ Tituba เท่านั้นที่สารภาพว่า ตนเองนั้นเกี่ยวข้องกับแม่มดและยังบอกอีกว่า “ยังมีแม่มดคนอื่นๆ อีกหลายคนซ่อนตัวอยู่และรอคอยเวลาที่จะทำลายหมู่บ้านแห่งนี้ ” ส่งผลให้เธอมีความสามารถในการจัดเรียงการ์ดในกองอย่างไรก็ได้ เพื่อให้เรื่องราวของหมู่บ้านแห่งนี้เกิดขึ้นตามที่เธอต้องการ
เมื่อ Tituba และ Samuel Parris เริ่มหย่อนเมล็ดพันธ์แห่งความหวาดระแวงแก่หมู่บ้านแห่งนี้ การกล่าวโทษคนอื่นๆ ก็เริ่มมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ผู้ใดยอมสารภาพและยอมรับว่าตนเองเกี่ยวข้องกับศาสตร์มืดก็จะถูกปล่อยตัวให้เป็นอิสระ แต่ถ้าหากยังยืนยันว่าตนเองบริสุทธิ์ ก็จะถูกจับทรมาณและประหารชีวิต
ในเดือนมีนาคม
นายก (วิลเลียม ฟิปส์) Willliam Phipps
ก็ได้สร้างศาลพิเศษที่ใช้ตัดสินคดีแม่มดให้เกิดขึ้นและจากการที่เขาเป็นผู้สร้างศาล ส่งผลให้เขามีความสามารถในการสารภาพบาปโดยไม่ต้องเปิดการ์ดโดนไต่สวนได้ 1 ครั้ง
ในการไต่สวนคดีความแห่งแม่มดมีผู้พิพากษาหลายคนที่ยอมรับหลักฐานทางจิตวิณญาณว่าเป็นหลักฐานที่น่าเชื่อถือ ซึ่งประกอบไปด้วยหลักฐานการยอมรับการกล่าวอ้างว่าฝันเห็นวิณญาณหรือเห็นนิมิตว่าผู้อื่นจะมาทำร้าย หนึ่งในผู้พิพากษาที่ยอมรับเรื่องแบบนี้คือ
ค็อตตอน เมเทอร์ ( Cotton Muther )
ส่งผลให้การ์ดหลักฐานทุกใบที่เล่นใส่เขามีค่าเท่ากับการ์ดข้อกล่าวหาเพียงแค่ 1 ใบ
แต่กระนั้นก็ยังมี
โทมัส แดนฟอร์ธ (Thomas Danforth)
ผู้พิพากษาที่กล่าวว่า การยอมรับหลักฐานทางจิตวิณญาณนั้นไม่มีมูลเหตุมากพอและต้องการให้การไต่สวนคดีความแห่งแม่มดนั้นจบลง ด้วยความที่เขาเป็นหนึ่งในผู้พิพากษา เขาจึงมีความสามารถ ที่ทำให้เล่นการ์ดข้อกล่าวหาน้อยกว่าคนอื่นก็สามารถเปิดเผยการ์ดไต่สวนของคนอื่นๆ ได้
ด้วยการที่ศาลยอมรับให้มีการยอมรับหลักฐานทางจิตวิณญาณเกิดขึ้น
แมรี่ วาร์เรน ( Mary Warren )
จึงได้ใช้หลักฐานชิ้นนี้ในการ ฟ้องศาลว่าคนอื่นเป็นแม่มด โดยหล่อนได้บอกว่า หล่อนได้เห็นภาพนิมิตของชายผู้หนึ่งจะมาทำร้ายเธอ ทำให้ชายผู้นั้นถูกต้องสงสัยว่าเป็นแม่มด และตายในท้ายที่สุด และเมื่อเธอถูกโจมตีเธอก็ได้สารภาพบาปว่าตนเองนั้นเป็นแม่มด และศึกษาตำราเวทมนตร์ด้วยตัวเอง ทำให้เธอไม่โดนจับแขวนคอและถูกปล่อยให้อิสระ ด้วยการที่เธอกล่าวว่าเธอศึกษาตำราแม่มดด้วยตนเองเธอจึงไม่ตกเป็นเป้าของ
การ์ดแมวดำ (ฺBlack Cat) และ การ์ดแม่สื่อ (Matchmaker)
ซึ่งเป็นการ์ดคาถาของแม่มดและจากการที่ศาลยอมรับหลักฐานทางจิตวิณญาณ จึงส่งผลทำให้มีคนหลายๆคนถูกจับมาขึ้นศาลแห่งนี้ทั้งๆที่ยังไม่มีความผิดอะไรไม่ว่าจะเป็น
จอร์จ เบอร์โรส์ (George Burroughs)
ซึ่งถูกนำมาขึ้นศาลเพราะเนื่องจากสามารถยกปืนคาบศิลาได้เพียงนิ้วเดียว และชาวบ้านเชื่อกันว่า เขาได้ติดต่อกับปีศาจให้มีพละกำลังมากขึ้น ส่งผลให้ความสามารถ George ต้องโดนการ์ดข้อกล่าวหา (Accusation) มากกว่าคนอื่นๆ จึงจะเปิดเผยการ์ดไต่สวนของตน
มาร์ธา คอรีย์ ( Martha Corey)
สตรีผู้เคร่งศาสนา ระหว่างที่เธอกำลังขึ้นศาล เด็กๆ ก็ได้เลียนแบบท่าทางของ Martha และได้กล่าวหาว่าเธอได้ใช้มนตร์คาถาควบคุมให้พวกเขาทำตามเธอ ส่งผลให้ความสามารถของ Martha คือการลอกเลียนแบบความสามารถของคนที่อยู่ข้างๆ เปรียบเสมือนกับการที่เธอควบคุมคนๆ นั้นให้ทำตามเธอ
รีเบ็คก้า เนิร์ส (Rebecca Nurse)
หญิงสูงวัยซึ่งเป็นที่เคารพมากที่สุดคนหนึ่งของหมู่บ้าน ก็ยังถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับแม่มด ระหว่างการไต่สวนมีคนหลายคนพยายามเขียนคำร้องเพื่อแย้งว่าเธอนั้นบริสุทธิ์ แต่ก็ไม่เป็นผลด้วยความที่ Rebacca เป็นที่น่าเคารพจากหลายๆ คนในหมู่บ้าน ทำให้ความสามารถของเธอเมื่อมีคนเปิดการ์ดไต่สวน Rebacca จะได้หยิบการ์ดเพิ่มขึ้น เปรียบเสมือนว่าคนทั้งหมู่บ้านกำลังช่วยเหลือเธอ
จอห์น พรอคเตอร์ (John Proctor)
ชายผู้ปฏิเสธข้อกล่าวหาของเด็กๆ ว่าไม่เป็นความจริงและกล่าวว่าหลักฐานทางจิตวิณญาณนั้นเชื่อถือไม่ได้ ทำให้เขาถูกต้องสงสัยว่าเป็นแม่มดและด้วยความเด็ดเดี่ยวของเขา จึงส่งผลให้ John มีความสามารถในการนำการ์ดของของผู้ที่ออกจากเกมขึ้นมือของตัวเองทั้งหมด ทั้ง George Burroughs , Martha Corey , Rebacca Nurse และ John Proctor ไม่ยอมสารภาพว่าตัวเองเกี่ยวข้องกับแม่มดและยืนยันว่าตนเองบริสุทธิ์จนถึงวินาทีสุดท้าย ส่งผลให้พวกเขาถูกจับแขวนคอในภายหลัง
ไจล์ส คอรีย์ (Giles Corey)
ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่โดนกล่าวหาว่าเป็นแม่มดร่วมกันภรรยาของเขา Martha Corey เขาโดนจับทรมาณเพื่อให้สารภาพด้วยวิธีที่ผิดศีลธรรม โดยการนำหินมาทับตัว Giles และเพิ่มน้ำหนักของหินให้หนักขึ้นเรื่อยๆ แต่ Giles ก้ยังไม่ยอมรับสารภาพและตายจากการโดนหินทับหลังจากผ่านไป 2 วัน ด้วยความ อดทนไม่ยอมสารภาพผิด ทำให้ Giles มีความสามารถเมื่อจั่วการ์ดข้อกล่าวหา (Accasation) 2 ใบ ซึ่งเป็นการ์ดที่มีประโยชน์น้อยที่สุด จะได้จั่วการ์ดเพิ่มฟรีๆ อีก 1 ใบ
เมื่อเหตุการณ์เริ่มบานปลายจนภรรยาของ นายก วิลเลี่ยม ฟิปส์ (William Phipps) โดนกล่าวหาว่าเป็นแม่มด เขาก็ได้ยกเลิกการไต่สวนคดีความแม่มดและไม่ยอมรับให้มีการฟ้องร้องที่ใช้หลักฐานทางจิตวิณญาณอีกต่อไป พร้อมๆ กับปล่อยตัวบุคคลที่ถูกขังคุกในข้อหา การฝึกคาถาจากปีศาจออกทั้งหมด จึงทำให้การไต่สวนคดีความแม่มดนี้จบลง ในช่วงเดือน ตุลาคมของปีเดียวกัน
จากเหตุการณ์นี้ส่งผลให้มีคนถูกจับแขวนคอรวมกัน 19 คน ถูกกดทับจนตาย 1 คน และคนอีกหลายร้อยคนถูกจับขังคุกในข้อหาการใช้ศาสตร์มืด ไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าจุดประสงค์ของการเริ่มล่าแม่มด หรือการกล่าวโทษคนอื่นนั้นมีสาเหตุมาจากอะไร แต่ที่เรารู้กันแน่ชัด คือ ศาลรับฟังคำให้การของเด็กโดยที่ไม่มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือใดๆ และลงโทษผู้อื่นให้ถึงแก่ความตายเพียงแค่มีหลักฐานทางจิตวิณญาณ
และนี่ก็คือทั้งหมดของรายการ Board Game World ในวันนี้ครับ ผิดพลาดตรงไหน หรืออยากให้เรานำประวัติ และเรื่องราวเกี่ยวกับเกมอะไรมาเล่า ก็สามารถคอมเมนต์ใต้คลิปกันเข้ามาได้เลยครับ และอย่าลืมกด like และ subscribe เพื่อติดตามพวกเรา วันนี้รายการ Board Game World ไม่ขอช้าง ไม่ขอม้า แต่ต้องขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ครั้งหน้าครับ สวัสดีครับ
