
บทความนี้สนุก กูไม่ได้โม้ !
ไม่ว่าจะเล่นเกม หรือจะใช้ชีวิตให้วิน เราจะต้องเป็นคนที่มีศักยภาพ และเก่งในหลาย ๆ ด้าน รวมถึงปากเก่งด้วย
พี่วัฒน์แห่งทีวีมั้งเคยออกปากชมคนที่เคยเล่นเกมกับแกคนหนึ่ง (หรือหลายคน) ไว้ว่า “นอกจากมึงจะเล่นเกมเก่งแล้ว มึงยังปากเก่งด้วย” นับเป็นคำชมที่ติดตรึงใจจนผมต้องยืมเอาไปใช้หลายต่อหลายครั้ง
แน่นอนว่าผมมองสิ่งนี้เป็นคำชมจริง ๆ (ถึงแม้จะแฝงไปด้วยการจิกกัด) เพราะการปากเก่งนี้แหละที่ทำให้คนหลายคนชนะเกมต่าง ๆ ได้ และคนปากเก่งจำนวนไม่น้อยก็ได้ดิบได้ดี ประสบความสำเร็จในชีวิตด้วยสกิลปากเก่งนี่แหละ
สำหรับบอร์ดเกมแล้ว การปากเก่งนับเป็นสกิลที่สำคัญมากโดยเฉพาะเกมสาย bluffing ซึ่งจะว่ากันจริง ๆ แล้ว แทบทุกเกมแม่งก็เปิดโอกาสให้เราบลัฟได้ทั้งนั้น
แต่คงไม่มีเกมไหนให้ความสำคัญกับการบลัฟจนเอามาตั้งเป็นชื่อเกมได้เทียบเท่ากับเกม “Bluff” อีกแล้ว ดูคลิปด้านล่างเลยครับ
BGN Ep.64 Bluff
“และสำหรับบทความชิ้นนี้
จะเป็นเกมนอกกระดานที่สนุกที่สุด
ตั้งแต่เคยมีมา”
ใครอ่านมาถึงตรงนี้ไปบอกต่อเพื่อนได้เลย ว่ามันมีประโยชน์มาก ๆ เพราะเราจะคุยกันเรื่องบลัฟล้วน ๆ
….
Bluff เนี่ยจริง ๆ แล้วเป็นคำที่โคตรใหม่ในภาษาอังกฤษคือแม่งเกิดขึ้นได้เมื่อราว ๆ ศตวรรษที่ 19 ไม่เกินสองร้อยปีมานี้เอง (ใหม่ เหี้ย ๆ ใช้กันมาตั้งแต่รุ่นยายของยายของยายอีกที แต่มันก็ใหม่นั่นแหละ) คำ ๆ นี้เป็นที่นิยมมากเพราะเกมไพ่โป๊กเกอร์ที่ฮิตในอเมริกา ถ้าคนที่เล่นเป็นคงจะรู้ว่าแม่งเป็นเกมที่สนุกมากและใช้ความสกิลการบลัฟล้วน ๆ

ฉากการเล่นโป๊กเกอร์ที่โด่งดังจากหนังเรื่อง Casino Royale
ส่วนความหมายของคำว่า bluff นี้คือ ความพยายามที่จะบอกคนอื่นว่าเรามีในสิ่งที่ไม่มี หรือทำอะไรได้ทั้งที่จริง ๆ มึงอาจจะทำไม่ได้ สำหรับที่มาของคำนี้สืบย้อนกลับไปมันน่าจะมาจากคำว่า brag ซึ่งถ้าจะให้แปลแบบไทย ๆ แม่งก็แปลว่า โม้ นั่นแหละ คือพูดเรื่องความดีงาม เก่งกาจของตัวเองเยอะแยะเสียเหลือเกิน
การบลัฟฮิตในเกมอย่างโป๊กเกอร์ ซึ่งเป็นเกมที่มีการวางเดินพัน ยิ่งบลัฟดี ยิ่งมีโอกาสได้เงินเยอะ จนทำให้เรื่องบลัฟนี้กลายเป็นศาสตร์อย่างจริงจัง ถึงขั้นที่ว่ามีหนังสือเกี่ยวกับการบลัฟออกมาเป็นจริงเป็นจังหลายต่อหลายเล่ม แต่ไม่ว่าอย่างไรเหตุผลหลัก ๆ ในการบลัฟที่ตรงกัน นั่นก็คือ
“การบลัฟคือการทำเพื่อประโยชน์สูงสุดของกู”

หนังสือ the book of bluffs หนึ่งในหนังสือมากมายเกี่ยวกับการบลัฟ
พอมันว่าด้วยประโยชน์ การบลัฟจึงถูกนำไปใช้ในชีวิตจริงมากมายนอกเหนือจากในเกม ขนาดที่ว่ามีคนพูดถึงการบลัฟเพื่อใช้ค้นหาความจริง (https://www.truthaboutdeception.com/lying-and-deception/get-others-to-be-honest/bluffing.html) เลยด้วยซ้ำ เขาบอกว่า
เมื่อถึงเวลาที่เราอยากรู้อะไรจริง ๆ หรืออยู่ในภาวะคลางแคลงใจในความสัมพันธ์ การบลัฟนี่ก็ทำให้เรารู้ความจริงที่เกิดขึ้นได้ ด้วยการบอกคนอื่นว่า ชั้นรู้แล้วนะว่าเกิดอะไรขึ้น หรือบอกคู่สนทนาไปทื่อ ๆ เลยว่า เรามีเรื่องต้องคุยกัน (ไอ้ห่า เรื่องอะไรกูยังไม่รู้เลย)
….
เล่ามาขนาดนี้อาจจะรู้สึกว่าการบลัฟแม่งชั่วร้ายเสียเหลือเกิน แม่งคือการโม้ คือการโกหกเพื่อประโยชน์ของตัวเองดี ๆ นี่เอง… แต่เดี๋ยวก่อน… ความจริงแล้วแม่งมีการบลัฟที่เป็นประโยชน์ต่อคนหมู่มากด้วย
“เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้คือการบลัฟที่
หลายคนบอกว่ามันคือ การบลัฟที่
ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์”
ย้อนกลับไปสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ตอนนั้นกองทัพนาซีเยอรมันบุกเข้ายึดครองโปแลนด์ และก็มีนโยบายจับชาวยิวเข้าค่ายกักกันเพื่อเอาไปใช้เป็นแรงงาน พอหมดประโยชน์ก็รมแก๊สฆ่าทิ้งเสีย หลาย ๆ คนคงเคยได้ยินประวัติศาสตร์ที่เจ็บปวดนี้มาบ้างแล้ว แต่ในความเจ็บปวดยังมีเรื่องราวที่น่าประทับใจเกิดขึ้น และแม่งเกิดขึ้นได้เพราะทักษะการบลัฟของคุณหมอชาวโปแลนด์คนหนึ่ง
เรื่องมันเริ่มขึ้นในช่วงเวลาที่ทหารนาซี เริ่มจับชาวยิวเข้าค่ายกักกันไปสักพักแล้ว แต่ด้วยความเป็นอยู่ที่ไม่ค่อยดีนักทำให้มีโรคไข้รากสาดใหญ่ระบาด ซึ่งโรคนี้เนี่ยถ้าเป็นแล้วคนจะอ่อนแอมากทำงานไม่ได้
ที่สำคัญคือพอร่างกายอ่อนแอก็เป็นโรคอื่นตามมาและตายได้ในที่สุด แล้วโรคนี้มันระบาดได้เร็วมากในภาวะสงครามและในค่ายกักกัน เพราะดูแลสุขอนามัยกันไม่ค่อยได้ กองทัพนาซีหวาดระแวงโรคไข้รากสาดใหญ่นี้มาก ถึงขั้นประสาทแดกต้องตรวจชาวยิวที่จับตัวได้ว่าติดเชื้อนี้ไหม
พระเอกของเรื่องนี้ คุณหมอยูจีน ลาซาวสกี รู้เรื่องนี้ดีครับว่าพวกทหารนาซีเนี่ยประสาทแดกกับไข้รากสาดใหญ่มาก และเขาก็พยายามหาทางช่วยเพื่อนร่วมเมืองของเขาที่มีชาวยิวอาศัยอยู่เยอะแยะ เอาง่าย ๆ ว่าถ้ากองทัพนาซีมาถึงเมืองนี้ คนแม่งถูกจับไปค่ายกักกันจนเมืองโล่งแน่ ๆ คือด้วยคนจำนวนมากมายนั้น จะหาที่ซ่อนให้พวกเขาก็คงไม่ไหว

หมอ Eugene Lazowski
โชคดีมากที่เพื่อนหมอของเขาคนหนึ่งส่งข่าวมาบอกพอดีว่า ค้นพบการฉีดเชื้อไข้รากสาดใหญ่ที่ตายแล้วเข้าสู่คน (เหมือน ๆ ฉีดวัคซีนนั่นแหละ) แล้วการฉีดนั้นมันทำให้เวลาตรวจหาไข้รากสาดใหญ่ผลจะเป็นบวก พูดง่าย ๆ คือ ฉีดไปแล้วไม่ทำให้ป่วย แต่ถ้าตรวจดูผลจะออกมาว่าเป็นโรค
หมอยูจีน (ที่อยู่ที่โปแลนด์ ไม่ใช่จีน) ของเราก็รีบเลยครับ วางแผนฉีดวัคซีนนี้ให้คนในเมือง ทหารนาซีจะได้ไม่มายุ่มย่าม… แต่ทีนี้มันไม่ง่ายขนาดนั้นครับ เพราะข่าวล่ามาแรงตอนนั้นมาถึงหูคุณหมอเหมือนกันว่า ถ้านาซีตรวจเจอว่าคนยิวคนไหนเป็นไข้รากสาดใหญ่ จะไม่ต้องถูกส่งไปอยู่ในค่ายกักกัน อ้าววว ก็ดีสิครับ รอดเลยนะเนี่ย …
“ไม่ถูกส่งไปค่ายกักกัน แต่ถูกส่งไปประหารแทนครับ”
หมอยูจีน วางเข็มฉีดยา แล้ววางแผนเลยฮะ
สุดท้ายก็ได้แผนบลัฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกออกมา คือ หมอยูจีนเลือกฉีดวัคซีนหลอกว่าป่วยตัวนี้ให้กับชาวเมืองที่ไม่ใช่คนยิวที่อยู่รอบ ๆ เมืองเพื่อล้อมคนยิวที่อยู่ตรงกลางของเมืองเอาไว้ พอทหารนาซีมาถึงรอบนอกของเมือง ก็ตามสูตรเลยครับตรวจโรคกันหน่อย ปรากฏว่าเจอชาวเมืองเป็นไข้รากสาดใหญ่ (ปลอม ๆ) เต็มไปหมด ทหารนาซีก็กลัวจะป่วยนั่นแหละครับ เลยไม่ยุ่งกับเมืองนี้เลย
การบลัฟครั้งนี้อาจดูแปลก ๆ หน่อย เพราะเป็นการหลอกว่าตัวเองป่วย แต่ผลของมันยิ่งใหญ่จริงครับ เพราะการบลัฟครั้งนี้สามารถช่วยเหลือชาวยิวได้ถึงราว 8,000 คน ไม่ให้ถูกส่งตัวไปค่ายกักกัน และไม่กลายเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่โลกไม่มีวันลืม
…..
ความจริงแล้วการบลัฟนี่ มันทำให้เราได้ประโยชน์จริง ๆ แหละครับ แต่จะเพื่อประโยชน์ของใครบ้างนั้น ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญานของแต่ละคนแล้วหละฮะ อย่างไรก็ดี การบลัฟก็มีความเสี่ยงเสมอนะครับว่าแผนจะแตกหรือเปล่า ซึ่งเราก็สามารถค่อย ๆ เรียนรู้ทักษะการบลัฟกันได้ผ่านเกมที่เราเล่น จากชีวิตจริง หรือลองหาอ่านได้ทั่วไปนะครับ
ก่อนจากกันไปผมเจอศิลปะการบลัฟง่าย ๆ ที่น่านำไปปรับใช้ ที่ผมไม่ได้คิดเองแต่ไปลอกเค้ามา ( http://www.electrogent.com/2013/04/how-to-bluff-like-a-man/ )
•
•
•
อย่างแรก คุณต้องรู้ว่าคุณกำลังจะบลัฟใคร เค้าจะเชื่อคุณไหม และทำไมเค้าต้องเชื่อคุณ ถ้าคุณรู้เกี่ยวกับคนที่คุณจะบลัฟ คุณจะออกแบบการบลัฟของคุณได้ดีขึ้น
ต่อมา บลัฟให้สุด ห้ามหลุดเลยนะ คือถ้าตัดสินใจจะบลัฟแล้วต้องไปให้สุด ห้ามเผยไต๋ หรือเล็ดรอดอาการใด ๆ ก็ตามที่ทำให้คนที่คุณกำลังบลัฟเห็นสัญญาณได้เป็นอันขาด เพราะถ้าหลุดเพียงนิดเดียวสิ่งที่คุณพยายามมาอาจพังทลายได้
สุดท้ายคือ ยกตัวเองให้ลอยออกมาจากสถานการณ์ก่อน คือว่า มึงไม่ต้องเห่อบลัฟอะครับ ไม่ใช่ว่ามึงตั้งใจมาบลัฟแล้วจะบลัฟตลอดเวลา สิ่งนึงที่ช่วยได้คือ ลอยตัวออกมาแล้วประเมินสถานการณ์ให้ดี บางทีคุณอาจไม่จำเป็นต้องบลัฟ และบางครั้งการเลือกบลัฟไปอาจจะไม่คุ้มค่าก็ได้